เลื่อนเปิดเทอม ซ้ำเติมเด็กหรือไม่
ภาณุวัฒน์
ยาวศิริ
สถานการณ์โรคโคโรน่าไวรัส
(โควิด19) ส่งผลให้ระบบสาธารณสุข
ระบบเศรษฐกิจเป็นอัมพาตในหลาย ๆ ประเทศ ยังส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษาด้วย โดยเฉพาะในประเทศไทย
ส่งผลต่อการเปิด-ปิดภาคเรียนและยังส่งผลต่อไปอีกหลาย ๆ อย่างในระบบการศึกษา
การเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 1 ก็เช่นกัน ทำให้หลาย ๆ โรงเรียนในกระทรวงศึกษาธิการทำการสอบ TCAS ไม่สำเร็จ ซึ่งส่งผลต่อการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาต่อไป ส่วนโรงเรียนที่รับสมัครนักเรียนเข้าเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่
4 ด้วย มีหลายโรงเรียนยังไม่แล้วเสร็จไม่เสร็จตามกำหนดตามกำหนดการที่วางไว้
เป็นผลให้เกิดความกังวลสำหรับนักเรียนรวมไปถึงผู้ปกครองด้วย
ส่วนในระดับอื่นถือว่ามีผลกระทบน้อยกว่า การศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้รับผลกระทบเพียงใด
ขอให้ดูระบบต่อไปนี้
เปิดภาคเรียน
– กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดวันเปิดเทอมสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไว้ในวันที่ 17
พฤษภาคม 2564 เป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน
สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) กล่าวว่า ถ้าฝืนเปิดเรียนในวันดังกล่าว
จะทำให้นักเรียนหลายคนเสียโอกาสในการเข้าศึกษาต่อในแต่ละระดับ
จะเป็นการซ้ำเติมเด็กเข้าไปอีก ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดเรียนออกไปอีก
เป็นเปิดวันที่ 1 มิถุนายน 2564 รวมระยะเวลาในการเลื่อนออกไป
11 วันทำการ(วันจันทร์-วันศุกร์)
ปิดภาคเรียน
– กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดวันปิดภาคเรียนไว้ในวันที่ 11
ตุลาคม 2564 ซึ่งเป็นวันเดิมที่กำหนดไว้
ไม่ได้เลื่อนตามวันเปิดภาคเรียนแต่อย่างใด ส่วนแนวปฏิบัตินั้นเป็นสถานศึกษาในแต่ละแห่งบริหารจัดการกันเอาเอง
มีแนวคิดว่าในแต่ละวิชาต้องได้เรียนเต็มเวลาตามที่กำหนดไว้ในแผนการเรียนการสอนของแต่ละรายวิชา
ผลกระทบ
– การระบาดของโรคโควิด19 ได้ส่งผลกระทบต่อการศึกษาไทยเป็นอย่างมาก
ต้องถามว่าวันนี้ผู้ที่ได้ผลกระทบมากที่สุดนั้นคงจะหนีไม่พ้นนักเรียน นักศึกษานั่นเอง
เท่าที่สอบถามผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการศึกษาก็พอสรุปผลกระทบ คือ
1.
เวลาเรียนน้อยลง ในการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564
นี้ เวลาในการเรียนน้อยลงไปถึง 11 วันถ้านับเป็นเวลาเป็นรายชั่วโมงเป็นเวลานานถึง
66 ชั่วโมง นับว่าเป็นเวลาไม่ใช่น้อยเลย ถ้าสถานศึกษาบางแห่งที่ไม่ใส่ใจการชดเชยในข้อนี้นับว่านักเรียนเสียโอกาสในการเรียนเป็นอย่างมาก
(ไม่นับรวมเด็กที่ไม่อยากเรียน เพราะเด็กเหล่านั้นไม่ได้เรียนพวกเขาจะดีใจ)
2.
การเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย – เด็กนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่
6 ที่มีการสอบ TCAS ล่าช้า เสียโอกาสในการเข้าเรียนในสาขาที่ตัวเองชอบหรือต้องการ
อย่างเช่นในตอนนี้เด็กเป็นจำนวนมากยังไม่มีที่เรียน ถามว่าที่เรียนมีมากไหม
ตอบว่ามาก แต่เป็นสาขาที่ตัวเองชอบหรือไม่นั้นตอบไม่ได้
เพราะบางมหาวิทยาลัยก็รับตรงไปเกือบหมดแล้ว
ส่วนการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 นั้น มหาวิทยาลัยที่ปรับการเรียนการสอนไปตามอาเซียนก็จะเปิดช้า
ประมาณเดือนสิงหาคม ส่วนมหาวิทยาลัยที่ไม่ปรับตามอาเซียนก็จะเปิดเรียนพร้อมกับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แนวทางการแก้ไขปัญหา
– เมื่อการระบาดของโรคโควิด19 ได้ส่งผลต่อระบบการศึกษาแล้วแนวทางการแก้ปัญหาก็พอสรุปได้ตามแนวทางต่อไปนี้
1.
การเตรียมความพร้อม – การเลื่อนการเปิดภาคเรียนไปถึง 11 วันทำการ ถือว่าเป็นการเตรียมตัวของโรงเรียนในเรื่องการเตรียมอาคารสถานที่
อุปกรณ์การเรียนการสอนทั้งโสตทัศนูปกรณ์ กิจกรรมภาคสนาม เช่น
อุปกรณ์ในการเรียนด้านพลศึกษา กิจกรรมนอกเวลาเรียน เป็นต้น
2.
การเยี่ยมบ้านนักเรียน – เป็นโอกาสอันดีที่อาจารย์ที่ปรึกษาจะได้ไปเยี่ยมนักเรียนตามบ้าน
ถือว่าเป็นการมีปฏิสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างครู นักเรียนและผู้ปกครอง
3.
การเตรียมกิจกรรมในภาคเรียน – ในแต่ละภาคเรียนมีกิจกรรมที่ต้องเตรียมตัวเป็นจำนวนมาก
ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีโอกาสในการเตรียมกิจกรรมมากขึ้น เช่น
กิจกรรมวันไหว้ครู กิจกรรมวันสุนทรภู่ กิจกรรมกีฬาสี เป็นต้น
4.
การชดเชยวันหยุด – การเปิดเรียนล่าช้า 11 วัน
เป็นเวลาในการเรียนการสอนมากถึง 66 ชั่วโมง
ต้องเตรียมอะไรบ้าง เช่น การเพิ่มเวลาเรียนในแต่ละวันไปอีก 1 ชั่วโมง หรือการสอนชดเชยในวันเสาร์อาทิตย์ เป็นต้น
5.
การสอนออนไลน์ – เตรียมการสอนออนไลน์ให้พร้อม ทั้งเนื้อหาบทเรียน
อุปกรณ์ในการสอน ระบบอินเตอร์เนต รวมไปถึงโปแกรมที่ใช้ในการเรียนการสอน เช่น Google
Classroom, Zoom meeting, Line meeting รวมไปถึงการเขียนเวปไซด์เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาบน
Google
Sites. เป็นต้น
จากที่กล่าวมาแล้ว
ถ้าการเตรียมตัวของสถานศึกษาไม่ดี
หรือไม่มีความพร้อมย่อมส่งผลกระทบโดยตรงกับนักเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะนักเรียนแต่ละคนมีศักยภาพทางด้านครอบครัวที่ไม่เท่ากัน
การได้รับผลกระทบย่อมต่างกันไปด้วย เพียงแค่โควิดก็หนักมากแล้วอย่าให้พวกเขาโดยซ้ำด้วยการศึกษาที่ไม่พร้อมเลย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ฯพณฯ ตรีนุช เทียนทอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ฯพณฯ เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น