วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

สุภาษิตท่านนายกประยุทธ์จันทร์โอชา

      สุภาษิตท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา

          ท่ามกลางสภาวะวิกฤต โควิด-19 ท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและแนวทางแก้ไขปัญหา และขอความร่วมมือกับประชาชนคนในชาติให้ร่วมกันฝ่าวิกฤตไปด้วยกันโดยได้กล่าวว่า. ยามคับขันต้องการคนกล้าหาญ เมื่อคราวปรึกษางานก็ต้องการคนไม่พูดพล่าม เมื่อยามมีข้าวมีน้ำก็ต้องการคนที่รักที่ปรึกษา เมื่อยามมีปัญหาก็ต้องการบัณฑิต หลายคนก็มีความสงสัยว่าท่านยกตัวอย่างสุภาษิตนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร ต้องการจะสื่ออะไรกับประชาชนชาวไทยบ้าง จึงขอขยายความสิ่งที่ท่านพูดเพื่อความเข้าใจที่กระจ่าง

1. ยามคับขันต้องการคนกล้าหาญ  หมายความว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันประเทศอยู่ในสภาวะคับขันเนื่องจากมีปัญหาในเรื่องโรคระบาดที่กระจายอยู่ในทั่วประเทศไทย ช่วงนี้เป็นการระบาดระลอกที่สามแล้วมีคนติดเชื้อโควิดมากถึง 60,000 กว่าคน มีผู้เสียชีวิต 100 กว่าคนซึ่งเพิ่มปริมาณในการเสี เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน ท่านต้องการคนกล้าหาญที่จะมาช่วยเหลือประเทศชาติ 

2. เมื่อคราวปรึกษางานก็ต้องการคนไม่พูดพร่ำ  มองเห็นว่าในปัจจุบันมีคนออกมาโจมตีท่านในเรื่องของการแก้ไขปัญหาโรคระบาด โควิด-19 นี้เป็นจำนวนมากไม่เพียงแต่ท่านคนเดียวรวมไปถึงกระทรวงสาธารณสุขด้วย นั่นก็หมายถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่าอนุทิน ชาญวีรกูลซึ่งเป็นรัฐมนตรีประจำ  ท่านคงมองเห็นว่าในสภาพปัจจุบันทุกคนควรร่วมกันแก้ไขปัญหาเรื่องโควิด มิควรพูดจาอะไรให้เกิดความเสียหายให้แก่ประเทศ รวมไปถึงการพูดจาที่บั่นทอนจิตใจของคนทำงานด้วย

3. ยามมีข้าวมีน้ำก็ต้องการคนที่รักที่ปรึกษาในข้อนี้หมายถึง ให้ให้ประชาชนคนไทยรักกัน คล้ายๆกับสุภาษิตจีนที่กล่าวว่า “มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน” นั่นเอง เวลามีความสุขเราก็ร่วมกันใช้ทรัพยากรอย่างมีความสุขแล้วเวลามีความทุกข์เวลามีวิกฤตทำไมต้องออกมาทะเลาะกันโจมตีกัน

4. เมื่อยามมีปัญหาก็ต้องการบัณฑิต. ในข้อนี้ความหมายของคำว่าบัณฑิตก็คือผู้รู้ผู้ที่มีความสามารถในด้านต่างๆมาช่วยแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศชาติ (แต่ก็อยากบอกจริง ๆ นะผู้ที่มีความรู้ความสามารถท่านก็ไล่ออกไปหมดแล้วนี่) ทางด้านเศรษฐ กิจการเงินการคลัง การสาธารณสุข การศึกษา 


ฯพณฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ฯพณฯ อนุทิน ชาญวีรกูล


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น