วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เพิ่มบารมีด้วยสัจจะ เพิ่มอาชีวะด้วยด้วยความเพียร

 เพิ่มบารมีด้วยสัจจะ เพิ่มอาชีวะด้วยด้วยความเพียร

    

        สัจจะ คือ ความจริง ความสัตย์ ความซื่อ ความจริงใจ หรืออีกนัยหนึ่งก็แปลว่าตรง คือทำให้ตรง ไม่บิดพริ้ว ไม่เหลวไหล ไม่ทำอะไรเล่น ๆ แสดงให้เห็นว่าคนที่มีสัจจะมักจะมีความรับผิดชอบสูง ให้ทำงานอะไรก็จะประสบความสำเร็จ เพราะนั่นก็คือสัจจะบารมีนั่นเอง แล้วถามว่าเพิ่มบารมีด้วยสัจจะคืออะไร ก็คือการยึดถือสัจจะทั้ง 5 ประการจะทำให้เรามีบารมีมากขึ้น พูดอะไรใครก็เชื่อถือ แล้วเพิ่มอาชีวะด้วยความเพียรคืออะไร อาชีวะคืออาชีพ การงาน การทำงานให้เจริญก้าวหน้า ดังนั้นการมีความเพียรที่เกิดจากสัจจะย่อมส่งผลให้อาชีพการงานดีมาก ยิ่งขึ้น แล้วเราจะเพิ่มบารมีในเรื่องสัจจะได้อย่างไร ซึ่งมีดังต่อไปนี้ครับ


    1. สัจจะต่อหน้าที่  หมายความว่า เรามีหน้าที่อะไรก็จงหน้าที่ของเราให้ดี เพราะทุกคนเกิดมาย่อมมีหน้าที่ที่ตนเองมี เช่น หน้าที่การเป็นสามี ภรรยา ก็ควรรักและรับผิดชอบต่อครอบครัวเป็นอย่างดี เลี้ยงดูมิใช่ไปแอบมีคนรักอื่น มีกิ๊กเล็กกิ๊กน้อยซึี่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควรด้วย   การเป็นภรรยาก็เช่นกันก็ควรดูแลสามี มิใช่ปล่อยให้เป็นไปตามบุญตามกรรม หน้าที่การงานก็เช่นเดียวกัน ต้องทำให้เต็มความสามารถทุ่มเทให้เต็มที่เป็นที่ไว้วางใจของผู้ใหญ่ในงาน หน้าที่ความเป็นลูก หน้าที่ความเป็นพ่อแม่ เป็นต้น


    2. สัจจะต่อการงาน หมายความว่า ทำอะไรทำจริง "กยิราเจ กยิราเถนัง" ซึ่งเป็นหลักของของคนที่ทำงานด้านพลศึกษา กีฬา ได้ยึดหลักการทำงานแบบนี้มาเนิ่นนาน ซึ่งมันต่อเนื่องมาจากสัจจะต่อหน้าที่ เมื่อมีหน้าที่แล้วการมีงานก็ย่อมเกิดตามมา คน 3 ประเภทที่ไม่มีสัจจะต่องานให้เลี่ยงเสีย ไม่ควรคบหาสมาคมด้วย คือ พวกทำให้งานเสียหาย พวกทำงานเหลาะแหละ พวกทำงานคั่งค้าง พวกนี้มิควรมีไว้ในองค์กร หรือถ้าจำเป็นต้องมีต้องให้มีหน้าที่ในตำแหน่งที่ต่ำ ไม่สูง เพราะจะพาให้องค์กรเสียหาย


    3. สัจจะต่อบุคคล หมายความว่า ต้องมีความจริงใจต่อบุคคล โดยเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตัวเราต้องจริงใจต่อกันไม่หลอกลวงกัน ไม่เอาความเชื่อใจไปเอาเปรียบคนอื่น อย่าเอาเปรียบคนดี เวลาเจอคนดีที่เขาดีกับเราเราควรดีตอบมิใช่ไปเอาเปรียบเขา แน่นอนว่าถ้าเราไม่จริงใจกับเขาแล้ว เขาก็ย่อมไม่จริงใจกับเราเช่นกัน


    4. สัจจะต่อวาจา หมายความว่า พูดคำใหนต้องคำนั้น ไม่ว่าจะพูดด้วยคำพูดหรือการพูดด้วยการเขียน หรือเป็นคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ต้องยึดถือคำนั้น อย่างเช่น บริษัทประกันแห่งหนึ่งขายประกันสุขภาพโรคโควิด19 พอมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นก็ส่งหนังสือยกเลิกกับผู้ซื้อประกันถือได้ว่าไม่มีสัจจะวาจา โดยทั่วไปแล้วสัจจะวาจามีด้วยกัน  2 ประเภทคือ พูดอย่างไรทำอย่างนั้น กับ ทำอย่างไรพูดอย่างนั้น  เพียงเท่านี้ก็นับว่าเพิ่มบารมีได้มาก


    5. สัจจะต่อความดี หมายความว่า การประพฤติตนให้เป็นคนดีอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ต้องประพฤติตนให้อยู่ในความดี ความดีเบื่องต้น คือ คิดดี ทำดี พูดดี ก็คือ ทำความคิดเห็นของเราให้ถูกต้อง ไม่โลภอยากได้ของคนอื่น ไม่คิดร้ายกับใคร รู้จักการให้อภัย ไม่พูดเท็จ ส่อเสียด หยาบคาย เพ้อเจ้อและไม่เบียดเบียนทั้งคนและสัตว์อื่น ไม่ลักไม่เอาของใครที่เจ้าของเขาไม่อนุญาต ไม่ผิดลูกผิดเมียผิดผัวของคนอื่น


    การประฤติตามหลักสัจจะช่วยเพิ่มบารมีของเขาให้มากขึ้น ทำให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น มีความสามารถมากขึ้นเพราะว่าเราได้มีสัจจะต่อการงานแล้ว ทำให้โอกาสในการเจริญก้าวหน้าในชีวิตการงานย่อมมีตามไปด้วย  ถามต่อว่าบารมีเกิดจากอะไร ก็เกิดจากสัจจะนี่แหละ ดังคำกล่าวของท่านหลวงปู่วิริยังได้กล่าวไว้ว่า " ความดีทำให้มาก ๆ เขาจะเรียกว่า บุญ ส่วนบุญทำให้มากเข้าเขาเรียกว่าวาสนา เมื่อมีวาสนามากขึ้นก็จะกลายเป็นบารมีในที่สุด" การมีสัจจะจึงเป็นการสร้างบารมี ความก้าวหน้าในงานก็เช่นเดียวกันย่อมมาจากความเพียร

                                                         ปางมารวิชัย ทรงชนะมารด้วยบารมี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น